
การค้าแข้งซีซั่นแรกของเมสซี่กับสีเสื้อเปแอสเช

การค้าแข้งซีซั่นแรกของเมสซี่กับสีเสื้อเปแอสเช เป็นเหตุการณ์ในคืนวันนั้นที่วงการลูกหนังต้องถูกจดจำเป็นอย่างมาก กับภาพของดาวเตะอาร์เจนติน่าในสีเสื้อสโมสรที่ไม่ใช่ บาร์เซโลน่า อีกต่อไป ทั้งยังเป็นการออกมาค้าแข้งนอกแผ่นดินสเปนครั้งแรกของ เมสซี่ อีกด้วย และแน่นอนว่า 1 ฤดูกาลที่ผ่านมามีหลากหลายเรื่องราวของ เมสซี่ ที่ถูกหยิบจับมาพูดถึง และถกเถียงกันทั้งในแง่ของผลงานในสนาม และเรื่องราวที่เกิดขึ้นนอกสนาม ว่าแล้วเราเลยได้ทำการรวบรวมประเด็นความสำคัญต่างๆ ของ เมสซี่ ในสีเสื้อ เปแอสเช ที่ผ่านมา 1 ปี ว่าเป็นยังไงบ้าง และยังมีตรงไหนที่ยังไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้

รายได้จากการขายเสื้อของ เมสซี

นับตั้งแต่ เมสซี่ กับการเป็นเป็นนักฟุตบอลอาชีพแบบเต็มตัว ถูกส่งลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของ บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2004 ภาพจำของเหล่าบรรดาแฟนบอลก็จะเห็นเขาในสีเสื้อของทัพ “เจ้าบุณทุ่ม” มาตลอด และแน่นอนว่าในทุกๆ ซีซั่นเสื้อที่มีชื่อของ เมสซี่ พร้อมกับหมายเลข 10 มักจะถูกจับจองมากที่สุดในทีมทุกๆ ปีอยู่แล้ว
และกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ ทั้งแฟนบอลของ เปแอสเช และรวมไปถึงนักสะสมเสื้อ และแฟนบอลทั่วโลกที่ชื่นชอบในตัว เมสซี่ ก็ย่อมอยากจะได้เสื้อไว้ในครอบครอง เหมือนเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของแข้งสตาร์ดังรายนี้
จากรายงานที่ระบุได้ว่าเพียง 24 ชั่วโมงแรก เปแอสเช กวาดรายได้จากการขายเสื้อที่มีชื่อของ เมสซี่ ได้มากถึง 76.6 ล้านยูโร (ราวๆ 2,985 ล้านบาท) ซึ่งจำนวนดังกล่าวคิดเป็น 832,000 ตัว เป็นการซื้อ และจองผ่านทั้งหน้าช้อปของสโมสร และทางออนไลน์
แน่นอนว่าด้วยจำนวนดังกล่าวนั้นมันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนัง ก่อนหน้านี้ซูปเปอร์สตาร์ของ เปแอสเช อย่าง เนย์มาร์ ที่ย้ายมาร่วมทีมวันแรกก็ขายเสื้อได้เพียง 10,000 ตัวเท่านั้น หรืออีกหนึ่งแข้งดังอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตอนย้ายไป ยูเวนตุส 24 ชั่วโมงแรกสามารถขายไปได้ 520,000 ตัว
และนี่คือปรากฏการณ์แรกที่เกิดขึ้นเมื่อ เมสซี่ ย้ายไปสวมเครื่องแบบใหม่อย่าง เปแอสเช ทั้งที่ยังไม่ได้ลงสนามไปโชว์ฟอร์มในสนามสัครั้งเลย แต่ทว่าด้วยชื่อเสียงที่โด่งดัง และผลงานที่สามารถการันตีได้อยู่แล้วว่าทีมจะได้ผลตอบรับ และหารายได้ตรงนี้แบบมหาศาลโกยเงินเป็นกอบเป็นกำ
เมสซี่ เพิ่มมูลค่าให้กับสโมสร

ด้วยชื่อชั้นระดับ ลิโอเนล เมสซี่ เขาย่อมถูกจ้องมองเป็นพิเศษไม่ใช่เพียงแค่ผลงานในสนาม แต่รวมไปถึงการยกระดับทีมเพิ่มขึ้นในแง่ของธุรกิจให้ก้าวไปอีกขั้นด้วย
การรายงานของ เลกิ๊ป สื่อในประเทศฝรั่งเศสได้ออกมาระบุว่าการเข้ามาของดาวเตะอาร์เจนติน่ารายนี้ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในฤดูกาลที่ผ่านมาได้มากถึง 60% ด้วยกัน
แจกแจงระบุให้ลึกลงไปอย่างแรกคือ เรื่องของเสื้อแข่งขันที่ถูกจำหน่ายไปแล้วมากถึง 1 ล้านตัว รวมไปถึงสินค้าอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยให้สโมสรโกยรายได้เป็นจำนวนมากจากจุดนี้มากขึ้นกว่า 40% หรือมีมูลค่าสูงถึง 60 ล้านยูโรเลยทีเดียว
นอกจากนั้นในเรื่องของผู้สนับสนุนก็มีรายใหม่ เจ้าใหม่เข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมากด้วย มากกว่า 310 ล้านยูโร และมี 11 รายที่เข้าร่วมให้การสนับสนับสนุนทีมในฤดูกาลนี้ซึ่งเป็นเพราะการมาของ ลิโอเนล เมสซี่ รวมแล้ว เปแอสเช มีรายได้เกินกว่า 700 ล้านยูโรในซีซั่นที่เพิ่งจบฤดูกาลไปหมาดๆ
ผลงานโดยรวมของ เมสซี่ กับ เปแอสเช

การย้ายเข้ามาของ เมสซี่ สิ่งที่แฟนบอลคาดหวังกันมาก และอยากเห็นมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการถล่มประตูเหมือนตอนที่อยู่กับ บาร์เซโลน่า รวมไปถึงลีลาสไตล์การเล่นที่เขาเคยโชว์ไว้สมัยค้าแข้งอยู่กับ “เจ้าบุณทุ่ม”
แต่ว่านี่คงเป็นฤดูกาลที่ เมสซี่ เองไม่ได้รับโอกาสลงสนามแบบสม่ำเสมอมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บ และรวมไปถึงโดนพิษไวรัสโควิด-19 เล่นงาน จึงทำให้ผลงานโดยรวมเจ้าตัวลงสนามให้ เปแอสเช รวมทุกรายการไปทั้งหมด 34 นัด ซัดไป 11 ประตู กับอีก 14 แอสซิสต์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าผิดหวังกับผลงานที่เขาเคยสร้างมา
ลองย้อนกลับไปฤดูกาลที่ เมสซี่ ทำประตูได้น้อยคือเมื่อซีซั่น 2005-06 โดยทำไปได้ 8 ประตู จากการลงสนาม 25 นัด ก่อนที่หลังจากนั้นเขากลายเป็นเครื่องจักรสังหารประตูอย่างสมบูรณ์แบบเคยยิงได้สูงถึง 73 ประตู ในฤดูกาลเดียวมาแล้ว
ซึ่งถามว่าจากจำนวนที่เกิดขึ้นในฤดูกาลแรกกับ เปแอสเช มันน้อยไปไหม? แน่นอนว่าอย่าง เมสซี่ ย่อมเป็นสถิติที่ไม่ค่อยสวยงามมากนัก แต่ทว่าถ้าเราตัดภาพความจำต่างๆ ในอดีตทิ้งไป และมองกันที่ผลงานในสนาม รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ที่เขาเองอาจจะไม่คุ้นชิน มันก็ไม่ได้ดูแย่อะไรขนาดนั้นเลย อีกทั้งยังเป็นจอมแอสซิสต์อันดับ 2 ของลีกเป็นรองเพียงแค่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ เพื่อนร่วมทีมเท่านั้น
สรุปภาพรวมปีแรกในประเทศฝรั่งเศสของ เมสซี่ ก็ไม่ได้ดูแย่มากนัก แต่ว่าด้วยความคาดหวังที่แฟนบอลต้องการให้ยกระดับมากกว่านี้ มันเลยอาจผิดคาดไปหน่อยในเรื่องของผลงานที่ถูกตั้งไว้มากกว่านี้
ความสำเร็จของ เมสซี่ ที่ควรได้มากกว่าแชมป์ลีกเอิง

เป็นอีกหนึ่งความหวังของแฟนบอลของ เปแอสเช เมื่อได้ เมสซี่ เข้ามาสู่สโมสรย่อมเป็นการมั่นใจในการประสบความสำเร็จในบอลเวทียุโรปอย่าง แชมเปี้ยนส์ลีก
ด้วยองค์ประกอบของทีมไล่มาตั้งแต่แดนหลังมี จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เฝ้าเสา กองหลังก็พวก มาควินญอส, อัชราฟ ฮาคิมี ขยับมาที่ตรงกลางก็ซูปเปอร์สตาร์ไม่ว่าจะเป็น มาร์โก แวร์รัตติ, อังเดร เอเรร่า หรือ อังเคล ดิมาเรีย ส่วนที่พีคขั้นสุดคงหนีไม่พ้น 3 ประสานแดนหน้า เอ็มบัปเป้, เนย์มาร์ และ เมสซี่
แต่ว่าภาพที่ฝันกับความเป็นจริงมันไม่เป็นอย่างที่แฟนบอลคิดเอาไว้ พวกเขาต้องตกรอบเพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น แม้จะเป็นการพลาดท่าให้กับ เรอัล มาดริด แต่ว่าในรายละเอียดของเกมพวกเขาควรที่จะต้องทำให้ได้ดีมากกว่านี้
และการที่ต้องตกรอบมันไม่แปลกเลยที่แฟนบอลจะไม่พอใจกับผลงานโดยรวมของทีม และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์โห่ใส่นักเตะบางรายของทีม แม้จะมีแชมป์ลีก เอิง มาคอยปลอบใจก็ตาม แต่ว่าด้วยศักยภาพของพวกเขาที่ควรไปไกลกว่าแค่บอลลีกในประเทศย่อมรู้สึกผิดหวัง และทวีคูณมากขึ้นเมื่อทรัพยากรในทีมมันเพียบพร้อม และคู่ควรกับความสำเร็จตรงนั้นเป็นอย่างมากด้วย
ฉะนั้นแล้วการที่ เมสซี่ เหลือสัญญากับทีมอีก 1 ปี และยังไม่แน่ไม่นอนว่าจะขยายสัญญาออกไปอีกหรือไม่ กับภารกิจการกู้ชื่อ และคว้าโทรฟี่บิ๊กเอียร์มาครองให้ได้นั้นต้องดำเนินต่อไปด้วยความเข้มข้น มองตามภาพที่ออกมาด้วยขุมกำลังแบบนี้ มันคู่ควรกับการลุ้นแชมป์มากกว่าแค่โบกมือลาในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
อ่านข่าวเพิ่มเติม :: เรื่องฟุตบอลน่าสนใจ
ติดตาม Facebook fans page :: UFA365CLUB