ประวัติ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เจ้าพ่อ CONTENT

ประวัติ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เจ้าพ่อสาย CONTENT
ประวัติ แฮร์รี่ แม็คไกวร์
วันเกิด 5 มีนาคม 1993
ทีมชาติ อังกฤษ
ส่วนสูง 1.94 เมตร
ตำแหน่ง กองหลัง
ทีมปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ประวัติ แฮร์รี่ แม็คไกวร์

ประวัติ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เจ้าพ่อ CONTENT ในฤดูกาลที่ผ่านมาแฟนบอล แมนยู หลายคนอาจรู้สึกสาปส่ง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เนื่องจากเขาไม่สามารถทำผลงานออกมาได้ดีเลยแม้แต่น้อย แฟนบอลจงเกลียดจงชังเขา ถึงขั้นที่มีการส่งจดหมายขู่วางระเบิดเลยทีเดียว หากเขายังไม่ออกจากทีม ทั้งที่ความผิดเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากตัวเขาเพียงแค่คนเดียวทั้งหมดแต่อย่างใด แม้ว่าเขานั้นจะทำประตูเข้าประตูตัวเองบ้าง หรือแม้แต่ทำให้เพื่อนร่วมทีมได้รับบาดเจ็บก็ตาม ต้องย้อนไปถึงกุนซือที่ยังคงให้เขาลงสนามเป็นตัวจริงอยู่เป็นประจำ แถมยังไม่ยึดตำแหน่งกัปตันทีมมาจากเขาอีกด้วย ทั้งที่มีข่าวลือออกมามากมาย ว่าเจ้าตัวนั้นรู้สึกกดดัน และตึงเครียดกับสถานะดังกล่าวไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะเหตุใดเขาจึงเป็นนักเตะกองหลังที่ แมนยู ยินดีควักเงินเป็นจำนวนที่สร้างสถิติแพงที่สุดในโลก เพื่อดึงตัวเขาเข้าร่วมทีม วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกัน

ประวัติ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เจ้าพ่อ CONTENT

จุดเริ่มต้นในการเป็นนักฟุตบอล

แฮรี่ แม็คไกวร์ นั้นเกิดในเมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่เด็กเขาเป็นคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่มาแต่ไหนแต่ไร และเป็นคนที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาเป็นอย่างมาก พี่ชายของเขาจึงแนะนำให้เขาได้รู้จักกับกีฬาที่มีชื่อว่าฟุตบอล และมันก็ได้จุดประกายความฝันของเด็กชายที่อยากจะติดทีมชาติอังกฤษให้สำเร็จ ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้ลองไปคัดตัวกับสโมสรเยาวชน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เพื่อที่จะทำตามความฝันให้สำเร็จ ในตอนแรกเขาเริ่มต้นด้วยการเป็นนักเตะตำแหน่งกองกลาง แต่เมื่อมีอายุประมาณ 16 ปีร่างกายของเขาก็สูงใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม จนโค้ชทีมเยาวชนได้แนะนำให้เขาเลื่อนลงมาเล่นในตำแหน่งกองหลังแทน และมันก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เพราะเขาสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว 

ประวัติ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เจ้าพ่อ CONTENT

เข้าสู่ปี 2011 เขามีอายุครบ 18 ปีพอดี สโมสรจึงตัดสินใจผลักดันให้เขาได้รับโอกาสในการลงแข่งขันในทีมชุดใหญ่ โดยได้ลงสนามเป็นครั้งแรกนัดพบกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในฐานะของนักเตะตัวสำรอง เขาได้ลงสนาม และทำผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจเลยทีเดียว ลงแข่งขันเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง เขาก็สามารถยึดตำแหน่งตัวหลักของสโมสรได้สำเร็จ นอกจากจะช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการตกชั้นไม่ต้องลงไปเล่นในลีกวันได้สำเร็จ เขายังสามารถรักษามาตรฐานผลงานเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม จนเกือบสร้างสถิตินักเตะหน้าใหม่ของสโมสรได้อีกด้วย เนื่องจากเขาเกือบพาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในการแข่งขันเอฟเอคัพได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่ต้องพ่ายแพ้ให้กับ ฮัลล์ ซิตี้ จนต้องหยุดอยู่ที่รอบ 4 ทีมสุดท้ายเท่านั้น

การก้าวเข้าสู่พรีเมียร์ลีก

ประวัติ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เจ้าพ่อสาย CONTENT

หลังจากเล่นให้กับลีกรองอังกฤษอยู่นานสโมสร ฮัลล์ ซิตี้ ที่เห็นความสามารถของเขาจึงได้ตัดสินใจดึงตัวเขามาร่วมทีมในปี 2013 เป็นการก้าวเข้าสู่ พรีเมียร์ลีก อย่างแท้จริง แต่อย่างไรก็ตามสโมสรดังกล่าวเพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่บน พรีเมียร์ลีก และตัวเขาเองก็มีปัญหาในการปรับตัวสำหรับการเล่นในการแข่งขันที่เข้มข้นกว่าเดิม ผู้จัดการทีมในเวลานั้นจึงส่งเขาไปหาประสบการณ์กับสโมสร วีแกน แอธเลติก แทน ในช่วงเวลาที่ถูกส่งไปยืมตัวหรือแม้แต่อยู่กับสโมสรต้นสังกัดเขาได้พิสูจน์ฝีมือให้ทุกคนได้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าเขานั้นเป็นคนที่มีความสามารถ แม้ว่าสุดท้ายในปี 2015 ฮัลล์ ซิตี้ จะต้องตกชั้นอีกครั้งก็ตาม เขาสามารถพาทีมกลับขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก ได้ในปี 2016 อย่างงดงาม และมีผลงานที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายปี 2016 นั้นเองพวกเขาก็ต้องเผชิญกับการตกชั้นอีกครั้ง

ประวัติ แฮร์รี่ แม็คไกวร์

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่กับสโมสรใหม่ ที่ใหญ่กว่าเดิมอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 17 ล้านปอนด์เท่านั้น  แต่เขากลับสามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ จนกลายมาเป็นนักเตะคนสำคัญของสโมสรได้แทบจะในทันที ช่วยให้เกมรับมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ในช่วงเวลานั้นทั้งแฟนบอล และเพื่อนร่วมทีมต่างรักเขา ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ อีกต่อไป 

ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ เขามีความน่าสนใจเป็นอย่างมากด้วยผลงานที่โดดเด่น แถมร่างกายที่สูงใหญ่จนกองหน้าหลายคนต้องเกรงขาม ทำให้สโมสร แมนยู ต้องการที่จะดึงตัวเขาเข้าร่วมทีมเป็นอย่างมาก จึงทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะคว้าตัวเขาให้สำเร็จถึงขั้นยอมจ่ายเงินกว่า 87 ล้านปอนด์ แลกกับสัญญา 6 ปีเลยทีเดียว ทำให้เขากลายเป็นกองหลังที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกนับตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา

ที่มาของฉายาเจ้าพ่อ CONTENT

ประวัติ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เจ้าพ่อสาย CONTENT

ในฤดูกาล 2021 ที่ผ่านมา เปรียบเสมือนกับฝันร้ายของ แมนยู ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับ หรือแม้แต่นักบอลเองก็ตาม หลังจากที่พวกเขานั้นต้องเผชิญกับวิกฤต ผลงานที่กู่ไม่กลับ พวกเขาไม่สามารถจบการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก ด้วยอันดับ 4 เพื่อคว้าตั๋วเข้าร่วมการแข่งขัน แชมป์เปียนลีก ในฤดูกาลหน้าได้ด้วยซ้ำไป ส่วนหนึ่งหลายคนมองว่าเกิดจากผลงานที่ย่ำแย่ของกองหลังอย่าง แม็คไกวร์ ที่ยังสู้ไม่มากพอ และเขาก็โดนกังขามากขึ้นไปอีกหลังจากสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับทีมชาติอังกฤษในปีเดียวกัน 

มีหลายครั้งที่เขาก่อเรื่องแบบที่ไม่ควรก่อ เนื่องจากเขานั้นเป็นถึงกัปตันทีม แถมยังเป็นนักเตะราคาแพงที่หลายคนคาดหวังเอาไว้สูง เขาเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการแข่งขัน บางครั้งที่โชคร้ายจนทำให้ แมนยู ต้องพ่ายแพ้ไม่ว่าจะเป็นการส่งบอลที่แม่นยำ  การเตะลูกเข้าประตูตัวเอง การทำให้เพื่อนร่วมทีมได้รับบาดเจ็บ  หรือแม้แต่ไม่สามารถทำให้เพื่อนร่วมทีมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของกัปตันทีม เรียกได้ว่าลงสนามทีไรได้เป็นข่าวทุกที 

เกียรติประวัติส่วนตัว

นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1 สมัย : 2011/12

นักเตะยอดเยี่ยมของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3 สมัย : 2011/12, 2012/13, 2013/14

นักเตะยอดเยี่ยมของ ฮัลล์ ซิตี้ จากการโหวตของเพื่อนร่วมทีม 1 สมัย : 2016/17

นักเตะยอดเยี่ยมของ ฮัลล์ ซิตี้ จากการโหวตของแฟนบอล 1 สมัย : 2016/17

นักเตะยอดเยี่ยมของ เลสเตอร์ ซิตี้ 1 สมัย : 2017/18

นักเตะยอดเยี่ยมของ เลสเตอร์ ซิตี้ จากการโหวตของเพื่อนร่วมทีม 1 สมัย : 2017/18

error: Content is protected !!