เทคโนโลยี VAR : เข้ามาเปลี่ยนบทบาทของโลกฟุตบอล

เทคโนโลยี VAR

เทคโนโลยี VAR ย่อมาจาก Video Assistant Referee ที่เข้ามาช่วยให้ผู้ตัดสิน ทำงานง่ายขึ้น ถูกกำหนดใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการกีฬา ไม่ใช่เพียงแค่ฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง เทนนิส วอลเลย์บอล ปิงปอง หรือกล่าวคือ กีฬาที่ใช้ความเร็วเป็นหลัก

ระบบ Video Assistant Referee หรือ VAR ที่เรารู้จักกันดีใน 2-3 ปีให้หลัง ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในทุกๆกีฬาที่ต้องใช้ความเร็ว ช่วยในการตัดสินใจของผู้ตัดสิน ถึงกระทั้ง สามารถตัดสินแทนกรรมการในสนามเองเลย ก็เห็นกันอยู่บ่อยครั้ง ในโลกของวงการฟุตบอลนั้น  VAR ถูกใช้ครั้งแรก ในเกมส์แรกอย่างไม่เป็นทางการคือ เกมส์ในเมเจอร์ลีก ซ็อกเกอร์ คู่ระหว่าง นิวยอร์ก เรดบูล และออร์แลนโด ซิตี้ บี

หากมองย้อนกลับไปก่อนเทคโนโลยีนี้จะเข้ามาในวงการลูกหนัง FIFA เคยได้นำ เทคโนโลยี Goal Line เข้าใาใช้งานอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ด้วยกระพัฒนาของโปรแกรมต่างๆที่ดีขึ้น Goal Line ไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป เนื่องด้วยข้อจำกัดหลายอย่างคือ ระบบ Goal Line สามารถตรวจสอบบอลข้ามเส้นประตูได้เท่านั้น ไม่ครอบคลุมถึงจังหวะฟาวล์ที่เกิดระหว่างเกมส์ 

เทคโนโลยี VAR

ข้อดีของVAR

  • ช่วยให้ผู้ตัดสินทำงานง่ายขึ้น
  • ย้อนกลับมาดูจังหวะปัญหาได้แม่นยำ
  • สามารถทำ Super Slow ให้เห็นถึงการฟาวล์ได้อย่างชัดเจน

ข้อเสียของVAR

  • ต้องเบรคจังหวะเกมส์การแข่งขันเพื่อตรวจสอบ VAR 
  • ใช้งบประมานในการนำเข้าที่สูง
  • ทำให้นักเตะต้องปรับตัวกับระบบที่ยุ่งยาก

เทคโนโลยี VAR ใช้ในกรณีใด

จากการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด FIFA ได้กำหนด 4 กรณีที่ VAR จะเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจของกรรมการ ดังนี้

  1. จังหวะการได้ประตู
  2. จังหวะจุดโทษหรือไม่จุดโทษ
  3. การให้ใบแดงโดยตรง กรณีที่มีการฟาวล์หนักๆ
  4. การให้ใบเหลืองหรือใบแดงผิดคน

 

โดยรวมแล้วการนำ VAR เข้ามานั้นก็เพียงเพื่อ ทำการตรวจสอบ ตรวจทาน จังหวะสำคัญๆ ที่ผู้ตัดสินอาจจะพลาดไป หรือเรียกง่ายๆว่าการปิดจุดบอด จะเกิดอะไรขึ้นหาก VAR ถูกนำเข้ามาใช้งานเร็วกว่านี้ แน่นอนว่า ดิเอโก มาราโดนา คงไม่ชอบใจแน่ๆ เพราะเขาจะไม่ได้ประตูจาก หัตถ์พระเจ้า (Hand Of God) หรือความโกลาหนของ เกาหลีใต้ ที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลกปี 2002 จะถูกฟ้องด้วยภาพทั้งหมด

จะเห็นได้ว่า มีทั้งข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ร่วมไปถึงแฟนบอลทั่วโลก ที่มีความคิดที่ต่างกันอีกด้วย บ้างก็ว่าใช้งานได้ดี บ้างก็ว่าขาดสีสันของเกมส์ฟุตบอลไปเลย อย่างไรก็ตาม การวิวัฒนาการของเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน ส่งผลให้ VAR ทำงานร่วมกับผู้ตัดสินได้ดียิ่งขึ้น 

เทคโนโลยี VAR

VAR ฟุตบอลไทย

เป็นเรื่องใหม่ที่วงการฟุตบอลไทย ได้มีมตินำเข้า เครื่องVAR มาใช้เป็นครั้งแรก แต่เนื่องด้วยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงในแต่ละครั้งที่จะใช้ ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ทีการถกเถียงกันในเรื่องนี้ว่า VAR จะถูกนำมาใช้ในคู่ที่หน้าสนใจเท่านั้น หรืออีกนัยหนึ่งคือ จะไม่สามารถใช้ได้ทุกๆการแข่งขันนั้นเอง

การนำระบบนี้เข้ามาใช้ครั้งแรกคือ ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2018 คู่ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 19 มกราคม เรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน คุณ พัณณิภา คำนึง เผยว่า “การที่จะใช้ VAR นั้นจะเป็นการตัดสินใจของกรรมการที่หนึ่งเท่านั้น บุคคลอื่นไม่สามารถเรียกดูได้ และจะมีทีมงานคอยตรวจสอบและส่งสัญญาณให้ผู้ตัดสิน หากมีอะไรผิดพลาด”

VAR

สรุปโดยร่วมแล้ว ตามความเห็นของผู้เขียน VAR ไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อเกมส์การแข่งขันฟุตบอลแต่อย่างใด เพราะการตั้ง กฎการใช้ VAR ขึ้นมาอย่างชัดเจนเพื่อไม่ให้แทรกแทรงการแข่งขันมากนัก นี้อาจจะเป็นผลดีมากกว่าผลเสียก็ได้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม : ข่าวกีฬาออนไลน์
อ่านคอลัมนิสต์ได้ที่ : คอลัมนิสต์
ติดตาม Facebook fanpage : UFA365CLUB

error: Content is protected !!