365ALLBETS

การค้าแข้งซีซั่นแรกของเมสซี่กับสีเสื้อเปแอสเช

การค้าแข้งซีซั่นแรกของเมสซี่กับสีเสื้อเปแอสเช

การค้าแข้งซีซั่นแรกของเมสซี่กับสีเสื้อเปแอสเช เป็นเหตุการณ์ในคืนวันนั้นที่วงการลูกหนังต้องถูกจดจำเป็นอย่างมาก กับภาพของดาวเตะอาร์เจนติน่าในสีเสื้อสโมสรที่ไม่ใช่ บาร์เซโลน่า อีกต่อไป ทั้งยังเป็นการออกมาค้าแข้งนอกแผ่นดินสเปนครั้งแรกของ เมสซี่ อีกด้วย และแน่นอนว่า 1 ฤดูกาลที่ผ่านมามีหลากหลายเรื่องราวของ เมสซี่ ที่ถูกหยิบจับมาพูดถึง และถกเถียงกันทั้งในแง่ของผลงานในสนาม และเรื่องราวที่เกิดขึ้นนอกสนาม ว่าแล้วเราเลยได้ทำการรวบรวมประเด็นความสำคัญต่างๆ ของ เมสซี่ ในสีเสื้อ เปแอสเช ที่ผ่านมา 1 ปี ว่าเป็นยังไงบ้าง และยังมีตรงไหนที่ยังไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้

การค้าแข้งซีซั่นแรกของเมสซี่กับสีเสื้อเปแอสเช
การค้าแข้งซีซั่นแรกของเมสซี่กับสีเสื้อเปแอสเช

รายได้จากการขายเสื้อของ เมสซี

การค้าแข้งซีซั่นแรกของเมสซี่กับสีเสื้อเปแอสเช

นับตั้งแต่ เมสซี่ กับการเป็นเป็นนักฟุตบอลอาชีพแบบเต็มตัว ถูกส่งลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของ บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2004 ภาพจำของเหล่าบรรดาแฟนบอลก็จะเห็นเขาในสีเสื้อของทัพ “เจ้าบุณทุ่ม” มาตลอด และแน่นอนว่าในทุกๆ ซีซั่นเสื้อที่มีชื่อของ เมสซี่ พร้อมกับหมายเลข 10 มักจะถูกจับจองมากที่สุดในทีมทุกๆ ปีอยู่แล้ว

และกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ ทั้งแฟนบอลของ เปแอสเช และรวมไปถึงนักสะสมเสื้อ และแฟนบอลทั่วโลกที่ชื่นชอบในตัว เมสซี่ ก็ย่อมอยากจะได้เสื้อไว้ในครอบครอง เหมือนเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของแข้งสตาร์ดังรายนี้

จากรายงานที่ระบุได้ว่าเพียง 24 ชั่วโมงแรก เปแอสเช กวาดรายได้จากการขายเสื้อที่มีชื่อของ เมสซี่ ได้มากถึง 76.6 ล้านยูโร (ราวๆ 2,985 ล้านบาท) ซึ่งจำนวนดังกล่าวคิดเป็น 832,000 ตัว เป็นการซื้อ และจองผ่านทั้งหน้าช้อปของสโมสร และทางออนไลน์

แน่นอนว่าด้วยจำนวนดังกล่าวนั้นมันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนัง ก่อนหน้านี้ซูปเปอร์สตาร์ของ เปแอสเช อย่าง เนย์มาร์ ที่ย้ายมาร่วมทีมวันแรกก็ขายเสื้อได้เพียง 10,000 ตัวเท่านั้น หรืออีกหนึ่งแข้งดังอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตอนย้ายไป ยูเวนตุส 24 ชั่วโมงแรกสามารถขายไปได้ 520,000 ตัว

และนี่คือปรากฏการณ์แรกที่เกิดขึ้นเมื่อ เมสซี่ ย้ายไปสวมเครื่องแบบใหม่อย่าง เปแอสเช ทั้งที่ยังไม่ได้ลงสนามไปโชว์ฟอร์มในสนามสัครั้งเลย แต่ทว่าด้วยชื่อเสียงที่โด่งดัง และผลงานที่สามารถการันตีได้อยู่แล้วว่าทีมจะได้ผลตอบรับ และหารายได้ตรงนี้แบบมหาศาลโกยเงินเป็นกอบเป็นกำ

เมสซี่ เพิ่มมูลค่าให้กับสโมสร

การค้าแข้งซีซั่นแรกของเมสซี่กับสีเสื้อเปแอสเช

ด้วยชื่อชั้นระดับ ลิโอเนล เมสซี่ เขาย่อมถูกจ้องมองเป็นพิเศษไม่ใช่เพียงแค่ผลงานในสนาม แต่รวมไปถึงการยกระดับทีมเพิ่มขึ้นในแง่ของธุรกิจให้ก้าวไปอีกขั้นด้วย

การรายงานของ เลกิ๊ป สื่อในประเทศฝรั่งเศสได้ออกมาระบุว่าการเข้ามาของดาวเตะอาร์เจนติน่ารายนี้ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในฤดูกาลที่ผ่านมาได้มากถึง 60% ด้วยกัน

แจกแจงระบุให้ลึกลงไปอย่างแรกคือ เรื่องของเสื้อแข่งขันที่ถูกจำหน่ายไปแล้วมากถึง 1 ล้านตัว รวมไปถึงสินค้าอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยให้สโมสรโกยรายได้เป็นจำนวนมากจากจุดนี้มากขึ้นกว่า 40% หรือมีมูลค่าสูงถึง 60 ล้านยูโรเลยทีเดียว

นอกจากนั้นในเรื่องของผู้สนับสนุนก็มีรายใหม่ เจ้าใหม่เข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมากด้วย มากกว่า 310 ล้านยูโร และมี 11 รายที่เข้าร่วมให้การสนับสนับสนุนทีมในฤดูกาลนี้ซึ่งเป็นเพราะการมาของ ลิโอเนล เมสซี่ รวมแล้ว เปแอสเช มีรายได้เกินกว่า 700 ล้านยูโรในซีซั่นที่เพิ่งจบฤดูกาลไปหมาดๆ

ผลงานโดยรวมของ เมสซี่ กับ เปแอสเช

การค้าแข้งซีซั่นแรกของเมสซี่กับสีเสื้อเปแอสเช

การย้ายเข้ามาของ เมสซี่ สิ่งที่แฟนบอลคาดหวังกันมาก และอยากเห็นมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการถล่มประตูเหมือนตอนที่อยู่กับ บาร์เซโลน่า รวมไปถึงลีลาสไตล์การเล่นที่เขาเคยโชว์ไว้สมัยค้าแข้งอยู่กับ “เจ้าบุณทุ่ม”

แต่ว่านี่คงเป็นฤดูกาลที่ เมสซี่ เองไม่ได้รับโอกาสลงสนามแบบสม่ำเสมอมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บ และรวมไปถึงโดนพิษไวรัสโควิด-19 เล่นงาน จึงทำให้ผลงานโดยรวมเจ้าตัวลงสนามให้ เปแอสเช รวมทุกรายการไปทั้งหมด 34 นัด ซัดไป 11 ประตู กับอีก 14 แอสซิสต์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าผิดหวังกับผลงานที่เขาเคยสร้างมา

ลองย้อนกลับไปฤดูกาลที่ เมสซี่ ทำประตูได้น้อยคือเมื่อซีซั่น 2005-06 โดยทำไปได้ 8 ประตู จากการลงสนาม 25 นัด ก่อนที่หลังจากนั้นเขากลายเป็นเครื่องจักรสังหารประตูอย่างสมบูรณ์แบบเคยยิงได้สูงถึง 73 ประตู ในฤดูกาลเดียวมาแล้ว

ซึ่งถามว่าจากจำนวนที่เกิดขึ้นในฤดูกาลแรกกับ เปแอสเช มันน้อยไปไหม? แน่นอนว่าอย่าง เมสซี่ ย่อมเป็นสถิติที่ไม่ค่อยสวยงามมากนัก แต่ทว่าถ้าเราตัดภาพความจำต่างๆ ในอดีตทิ้งไป และมองกันที่ผลงานในสนาม รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ที่เขาเองอาจจะไม่คุ้นชิน มันก็ไม่ได้ดูแย่อะไรขนาดนั้นเลย อีกทั้งยังเป็นจอมแอสซิสต์อันดับ 2 ของลีกเป็นรองเพียงแค่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ เพื่อนร่วมทีมเท่านั้น

สรุปภาพรวมปีแรกในประเทศฝรั่งเศสของ เมสซี่ ก็ไม่ได้ดูแย่มากนัก แต่ว่าด้วยความคาดหวังที่แฟนบอลต้องการให้ยกระดับมากกว่านี้ มันเลยอาจผิดคาดไปหน่อยในเรื่องของผลงานที่ถูกตั้งไว้มากกว่านี้

ความสำเร็จของ เมสซี่ ที่ควรได้มากกว่าแชมป์ลีกเอิง

การค้าแข้งซีซั่นแรกของเมสซี่กับสีเสื้อเปแอสเช

เป็นอีกหนึ่งความหวังของแฟนบอลของ เปแอสเช เมื่อได้ เมสซี่ เข้ามาสู่สโมสรย่อมเป็นการมั่นใจในการประสบความสำเร็จในบอลเวทียุโรปอย่าง แชมเปี้ยนส์ลีก

ด้วยองค์ประกอบของทีมไล่มาตั้งแต่แดนหลังมี จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เฝ้าเสา กองหลังก็พวก มาควินญอส, อัชราฟ ฮาคิมี ขยับมาที่ตรงกลางก็ซูปเปอร์สตาร์ไม่ว่าจะเป็น มาร์โก แวร์รัตติ, อังเดร เอเรร่า หรือ อังเคล ดิมาเรีย ส่วนที่พีคขั้นสุดคงหนีไม่พ้น 3 ประสานแดนหน้า เอ็มบัปเป้, เนย์มาร์ และ เมสซี่

แต่ว่าภาพที่ฝันกับความเป็นจริงมันไม่เป็นอย่างที่แฟนบอลคิดเอาไว้ พวกเขาต้องตกรอบเพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น แม้จะเป็นการพลาดท่าให้กับ เรอัล มาดริด แต่ว่าในรายละเอียดของเกมพวกเขาควรที่จะต้องทำให้ได้ดีมากกว่านี้ 

และการที่ต้องตกรอบมันไม่แปลกเลยที่แฟนบอลจะไม่พอใจกับผลงานโดยรวมของทีม และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์โห่ใส่นักเตะบางรายของทีม แม้จะมีแชมป์ลีก เอิง มาคอยปลอบใจก็ตาม แต่ว่าด้วยศักยภาพของพวกเขาที่ควรไปไกลกว่าแค่บอลลีกในประเทศย่อมรู้สึกผิดหวัง และทวีคูณมากขึ้นเมื่อทรัพยากรในทีมมันเพียบพร้อม และคู่ควรกับความสำเร็จตรงนั้นเป็นอย่างมากด้วย

ฉะนั้นแล้วการที่ เมสซี่ เหลือสัญญากับทีมอีก 1 ปี และยังไม่แน่ไม่นอนว่าจะขยายสัญญาออกไปอีกหรือไม่ กับภารกิจการกู้ชื่อ และคว้าโทรฟี่บิ๊กเอียร์มาครองให้ได้นั้นต้องดำเนินต่อไปด้วยความเข้มข้น มองตามภาพที่ออกมาด้วยขุมกำลังแบบนี้ มันคู่ควรกับการลุ้นแชมป์มากกว่าแค่โบกมือลาในรอบ 16 ทีมสุดท้าย


อ่านข่าวเพิ่มเติม :: เรื่องฟุตบอลน่าสนใจ

ติดตาม Facebook fans page :: UFA365CLUB

error: Content is protected !!